มาทำความรู้จัก KPIs vs OKRs กับ MindDoJo กันดีกว่า
เนื่องจากอยู่ในยุคของการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว การทำกลยุทธ์หลังปี 2020 จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงและอัปเดต รวมไปถึงเปลี่ยนกรอบความคิดของคน ซึ่งบางครั้งความแตกต่างระหว่าง KPIs vs OKRs ก็มีผลในการดำเนินงานและ Culture ขององค์กร เพราะการทำงานของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน
KPIs อาจจะเหมาะกันคนบางกลุ่ม และ OKRs อาจจะเหมาะกับคนอีกหนึ่งกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่ OKRs จะถูกปรับใช้กับคนรุ่นใหม่ เนื่องจากคนรุ่นใหม่บางกลุ่มต้องการอิสระในวิธีการที่จะไปถึง Goal
วันนี้ MindDoJo มี 3 ความแตกต่างระหว่าง KPIs vs OKRs ที่ใช้การวัดผลประเมินผลต่างกัน มีอะไรบ้างมาดูไปพร้อม ๆ กันเลย
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักก่อนดีกว่าว่า OKRs และ KPIs คืออะไร
OKRs (Objectives and Key Results)คืออะไร?
ต้องบอกก่อนว่า OKRs ไม่ใช่ของใหม่ เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นราว ๆ ปี 1970 องค์กรที่นำมาใช้องค์กรแรกคือ Intel โดย Andy Grove แต่ไม่ถูกพูดถึงเท่ากับการนำ OKRs มาใช้ขององค์กรยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Google ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากกับการนำเอาแนวคิดนี้มาใช้ จนทำให้เป็น Case Study ที่น่าสนใจกับองค์กรทั่วโลก
หลักสำคัญของ OKRs คือการตั้ง Objective ให้สอดคล้องกับเป้าหมายเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับขององค์กร หรือก็คือสิ่งที่เราตั้งวัตถุประสงค์รวม และทั้งเป้าหมาย (Objectives) ว่าจะทำอะไรบ้าง (What)
ส่วน Key Results ต้องวัดผลได้อย่างชัดเจน มีการติดตามผล และสร้างเป็น Action Plan อย่างชัดเจน หรือวิธีการที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร (How)
KPIs (Key Performance Indicator) คืออะไร?
สิ่งที่พนักงานในองค์กรรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่ง KPIs เป็นเมตริกเฉพาะหรือการวัดเชิงปริมาณ ที่องค์กร ทีม หรือบุคคลนำมาใช้เพื่อประเมิน และติดตามผลการปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ และวัตถุประสงค์
โดย KPIs เป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการประเมินความสำเร็จของกิจกรรม และกระบวนการต่าง ๆ ภายในองค์กร โดยให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับประสิทธิภาพ และความคืบหน้าโดยรวม KPIs อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรม เป้าหมายขององค์กร และแผนกหรือทีมที่ต้องการวัดผล
ตัวอย่างเช่น ทีมขายอาจใช้ KPIs ในการวัดรายได้ต่อเดือน อัตรา Conversion หรือต้นทุนการได้มาซึ่งลูกค้า ในขณะที่ทีมสนับสนุนลูกค้าอาจติดตาม KPIs เช่น เวลาตอบสนองเฉลี่ย หรือคะแนนความพึงพอใจของลูกค้า
การเลือก KPIs ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรยังคงมุ่งเน้นไปในสิ่งที่สำคัญต่อความสำเร็จอย่างแท้จริง และช่วยระบุจุดที่ต้องปรับปรุง การตรวจสอบและวิเคราะห์ KPIs เป็นประจำ ทำให้องค์กรสามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูล และดำเนินการแก้ไขเมื่อจำเป็น ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว จะเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ด้วยหลักสำคัญนี้จึงทำให้ OKRs มีความแตกต่างกับ KPIs โดยสรุปออกมาได้ง่าย ๆ 3 ประการ ดังนี้
1. OKRs ไม่ใช่แค่ระบบการประเมินผล แต่ …
OKRs เป็นการทำเพื่อการเรียนรู้และพัฒนา ช่วยชี้นำแนวทางให้กับบุคลากรและองค์กร ไม่ควรนำมาใช้ในการตัดสินเพื่อขึ้นเงินเดือนหรือให้โบนัส แตกต่างกับ KPIs ที่ใช้ในการตัดสินสิ่งเหล่านี้ตามผลงานที่ทำได้
ทั้งนี้การวัดผลเพื่อพัฒนา จะช่วยปรับเปลี่ยนมุมมองความคิดที่คนในองค์กรมักจะมองว่า การทำผลงานเพื่อรางวัลตอบแทน เป็นการทำผลงานเพื่อพัฒนาศักยภาพตนเอง
สุดท้ายแล้วจะนำมาซึ่งความสำเร็จขององค์กร จนส่งผลต่อรางวัลของตนเองด้วยเช่นกัน
2. การกำหนด OKRs ไม่ได้มาจากผู้บริหารเพียงฝ่ายเดียว
KPIs มักจะถูกกำหนดจากมุมมองของผู้บริหาร แต่ OKRs จะมาจากพนักงานด้วยอย่างน้อย 50% ด้วยการระดมความคิดร่วมกัน ระหว่างระดับปฏิบัติการกับระดับบริหาร ซึ่งจะสร้างการมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายได้อย่างชัดเจนจากมุมมองของผู้บริหาร และแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนจากมุมมองของพนักงาน
ทุกคนในองค์กรจึงเข้าใจมุมมองเดียวกัน เข้าใจคนอื่นมากขึ้น สร้างความโปร่งใสในการทำงานได้
3. OKRs ท้าทาย แต่ทำได้จริง
การวัดผลของ KPIs ระบุอย่างชัดเจนว่าต้องทำให้ครบ 100% มีความท้าทาย แต่หลายครั้งมีความเป็นไปได้หรืออาจจะทำไม่ได้จริง
แต่ OKRs มีระดับความสำเร็จที่รับได้อยู่ที่ 70-80% สร้างความกล้าที่จะท้าทายเป้าหมายเดิม ๆ นำมาซึ่งความสำเร็จในระยะยาวต่อไป
Comments