เรามามองความรักแบบ Design Thinking กัน ❤️

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า  “รักออกแบบไม่ได้” เพราะว่าความรักคือเรื่องของความสัมพันธ์ ความรู้สึก มันมีความซับซ้อนเกินกว่าที่เราจะสามารถ ‘ออกแบบได้’ … จริงหรือ? ในเดือนแห่งความรักนี้  MindDoJo จะชวนทุกคนมาออกแบบความรักด้วยการ ‘มองความรักแบบ Design Thinking’ กัน

ซึ่งโดยทั่วไปคนส่วนใหญ่รู้จัก  Design Thinking ว่าเป็นแค่กระบวนการออกแบบที่ใช้ในการสร้างนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ หรือบริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า และสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ   แต่ในอีกมุมหนึ่ง  Bill Burnet และ  Dave Evans ผู้เขียนหนังสือ ‘คู่มือออกแบบชีวิต  (Designing Your Life)’ ก็ได้กล่าวถึงการนำ  Design Thinking มาใช้ในการออกแบบ ‘เรื่องของความรัก’ เช่นกัน

ต้องบอกก่อนว่า การล้มเหลว หรือการผิดหวังในความสัมพันธ์ ไม่ได้แปลว่าเราออกแบบความรักไม่เป็น หรือไม่เก่งด้านความรักนะ   เพราะจริง ๆ แล้วการมีความรักแบบ  Design Thinking เราไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกนะ เราสามารถที่จะทำผิดพลาดกี่รอบก็ได้ เพราะสิ่งที่สำคัญคือ ในแต่ละครั้งเราจะนำความผิดพลาดมาปรับปรุง และออกแบบความรักครั้งต่อไปให้ดีขึ้นได้อย่างไร

เรามารู้จักวิธีการมองความรักแบบ Design Thinking กัน

#ทำความเข้าใจ 

ก่อนจะออกแบบความรัก เราต้องทำความเข้าใจอีกฝ่ายก่อน แน่นอนว่าไม่ได้หมายถึงการคิดแทน หรือพยายามทำความเข้าใจอีกฝั่งโดยใช้ความรู้สึกของตัวเอง (คิดไปเอง) แต่คือการเข้าใจจุดมุ่งหมายของการมีความสัมพันธ์ของอีกฝ่าย เพื่อที่จะรู้ความต้องการที่ซ่อนอยู่ในใจเขา  ในบางครั้งเราเลยเห็นว่าการทำเซอร์ไพรส์กับคนรัก มันไม่ได้ประสบความสำเร็จเสมอไป   ไม่ใช่เพราะว่าการเซอร์ไพรส์ไม่ดี แค่เพราะเราขาดความเข้าใจคนรักต่างหาก ซึ่งสิ่งที่จะช่วยได้ นั้นคือการสื่อสารที่ดี การสังเกต หรือถ้าไม่เข้าใจจริง ๆ การถามออกไปตรง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรนะ 

#กล้าที่จะทดลอง

ความรัก ความสัมพันธ์ในมุมมอง  Design Thinking เป็นสิ่งที่มากกว่าความรู้สึก การที่เราจะรัก หรือรับความรักจากใครสักคน มันไม่ได้เกิดจากการสบตากันเพียงไม่กี่วินาที   เพราะรักที่แท้จริงต้องอยู่ควบคู่กับเหตุผล และการที่เราจะรู้ว่าความรู้สึกที่มี กับเหตุผลในใจสามารถไปด้วยกันได้ มันก็ต้องมีการทดลอง ลองเรียนรู้กันและกัน ลองทำกิจกรรมร่วมกัน และไม่ต้องกลัวว่าผลจะออกมาผิดพลาด   เพราะจะผิดหวัง หรือสมหวัง สิ่งเหล่านี้ก็เป็นประสบการณ์จากการลองผิดลองถูกทั้งนั้น เราถึงเรียกสิ่งนี้ว่า ‘การทดลอง’ แล้วคุณล่ะ..ได้ลองให้โอกาสตัวเองในการทดลองความรักแล้วหรือยัง? 

#ค่อยๆปรับตัว 

หลังจากได้ทดลองความรักแล้ว เราก็จะได้รู้ถึงสิ่งที่ชอบ/ไม่ชอบ ได้รับทั้งคำแนะนำ คำติเตียน และมีความรู้สึกต่าง ๆ เข้ามา ซึ่งทั้งหมดนี้เรียกอีกอย่างนึงก็คือ  ‘Feedback’ นั่นเอง   ซึ่งเราควรที่จะนำ  Feedback เหล่านี้มาเป็นหลักในการออกแบบความรักให้มันดีขึ้น   ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ผลลัพธ์ที่ได้ก็คงเหมือนเดิม อยากให้ความรักไปได้ด้วยดี ก็จงปรับตัวให้เป็น และระวังอย่าคิดไปเองนะ

จริง ๆ  แล้วการมองความรักแบบ  Design Thinking มันเป็นธรรมชาติของคนเราอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราจะดึงสิ่งนั้นออกมาทำเป็นรูปธรรม หรือทำจากความเข้าใจจนกลายเป็นนิสัยได้อย่างไร  MindDoJo เชื่อว่าหากคุณทำได้มุมมอง และผลลัพธ์เรื่องของความรักของคุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

"ขอให้สมหวังกับความรักในเดือนแห่งความรักนะครับ