
ปัญหาหนึ่งที่สำคัญที่วิทยากรภายในมักจะพบกันดี คือ ความแตกต่างและหลากหลายของผู้เรียน ซึ่งจะทำให้การเรียนรู้ใน Workshop ไม่ได้ผลตอบรับที่ดีเท่าที่ควร ทุกคนมีสไตล์การเรียนรู้ที่แตกต่างกัน การออกแบบการอบรมที่เหมาะสมกับสไตล์ผู้เรียนแต่ละคน ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ แต่ยังสร้างความพึงพอใจและทำให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริง วันนี้เราจะพาคุณมารู้จัก 4 สไตล์การเรียนรู้ "KIVA" ซึ่งช่วยให้ Corporate Trainer สามารถออกแบบแนวทางการอบรมเพื่อให้เข้ากับผู้เรียนรูปแบบต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น!
1️⃣ K: Kinesthetic (ร่างนิ่ง สมองก็หยุด)
สำหรับผู้เรียนที่เรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริง การเคลื่อนไหว และการปฏิบัติ กลุ่มคนเหล่านี้มักจะเป็นสายงานปฏิบัติการที่ชอบเรียนรู้จากการลงมือทำจริง ๆ ถ้าไม่ได้ลงมือทำ ยังไงก็ไม่เข้าใจแน่นอน
ชอบ 👍🏻 : กิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหว เช่น กิจกรรมโรลเพลย์ การทำ Workshop หรือเกมที่ต้องใช้ร่างกาย
เหมาะสำหรับ: คนที่พลังจากร่างกายช่วยเสริมพลังสมองและต้องการประสบการณ์ตรง
ตัวอย่าง: แทนที่จะให้นั่งฟังการบรรยายอย่างเดียว ลองให้ผู้เรียนได้ทำสถานการณ์จำลองหรือแก้ไขปัญหาจริงในรูปแบบเกมเพื่อให้เข้าใจบทเรียน
2️⃣ I: Intellectual (เรียนรู้ด้วยการคิดวิเคราะห์)
กลุ่มผู้เรียนที่ชอบการแก้ปัญหาผ่านความคิดและการวิเคราะห์เชิงลึก กลุ่มนี้อาจจะดูเหมือนว่าจะนิ่ง ๆ ไม่ได้กระตือรือร้น เดินไปเดินมา แต่แท้ที่จริงแล้วผู้เรียนเหล่านี้กำลังเรียนอยู่ แต่มักจะเรียนแบบคิดตามไปด้วย
ชอบ 👍🏻 : การตั้งคำถาม กรณีศึกษา หรือโปรเจกต์ที่ต้องใช้สมองแก้ปัญหา
เหมาะสำหรับ: คนที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกและกระบวนการคิดที่สร้างความรู้ยั่งยืน
ตัวอย่าง: การให้โจทย์ธุรกิจซับซ้อนเพื่อให้ผู้เรียนได้คิดและเสนอแนวทางแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
3️⃣ V: Visual (เข้าใจผ่านสิ่งที่มองเห็น)
ผู้เรียนที่ตอบสนองได้ดีที่สุดเมื่อมีภาพช่วยประกอบการอธิบาย กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้ต้องการอะไรมาก ขอเพียงแค่กรณีตัวอย่าง รายละเอียด หรือภาพประกอบให้ชัดเจน แค่ไม่ได้เห็นแค่ตัวหนังสือก็สามารถเรียนรู้ได้ดีมากยิ่งขึ้นแล้ว
ชอบ 👍🏻 : แผนภาพ, วิดีโอ, หรือ Presentation ที่มีภาพที่ชัดเจน
เหมาะสำหรับ: การอธิบายสิ่งที่ซับซ้อนด้วยภาพและตัวอย่างที่เห็นได้ชัด
ตัวอย่าง: แทนการพูดเรื่องกลยุทธ์เพียงอย่างเดียว ให้ลองสร้าง Diagram หรือ Mind Map เพื่อช่วยผู้เรียนเห็นภาพรวม
4️⃣ A: Auditory (เรียนรู้ผ่านการฟัง)
กลุ่มที่เรียนรู้ดีที่สุดผ่านเสียงและบทสนทนา กลุ่มนี้มักจะเป็นผู้ฟังที่ดี ชอบฟัง ชอบแลกเปลี่ยน มีปฏิกิริยาตอบสนองกับวิทยากรอยู่เสมอ วิทยากรอาจจะมองพวกเขาเหล่านี้ตอนอยู่หน้าห้องเสมอ เพราะไม่ว่าจะพูดอะไร เขามักจะพยายามพยักหน้าตอบรับอยู่ด้วย แต่ถ้าพูดแต่เนื้อหามากเกินไปเขาก็อาจจะรับฟังไม่ไหว แต่ถ้ามีศิลปะในการเล่าเรื่องจะทำให้ผู้เรียนเหล่านี้ถ่ายโอนความรู้ไปในความทรงจำระยะยาวได้อย่างแน่นอน
ชอบ 👍🏻 : การพูดคุย การเล่าเรื่อง หรือการอภิปรายที่เปิดโอกาสให้แชร์ความคิดเห็น
เหมาะสำหรับ: คนที่ต้องการบรรยากาศการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้
ตัวอย่าง: ใช้กิจกรรมการประชุมกลุ่มเล็ก หรือให้แต่ละคนเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหัวข้อที่เรียนเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน
เมื่อคุณเข้าใจสไตล์การเรียนรู้ของผู้เข้าอบรมแล้ว จะช่วยให้การออกแบบการอบรมเหมาะสมและเข้าถึงใจผู้เรียนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการผสมผสานหลายสไตล์ในคลาสเดียว หรือปรับกิจกรรมให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ เพียงแค่เราจะต้องทำความเข้าใจให้ดี เพื่อให้การออกแบบสมบูรณ์มากที่สุด
คุณล่ะ? อยากพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้ตรงจุดและมีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นไหม?
เราพร้อมช่วยพัฒนาหลักสูตรเฉพาะที่เหมาะสมกับองค์กรของคุณ ติดต่อเราได้เลย!
Comments